สมาธิที่ถูกต้อง ต้องมีตัวรู้หรือสติกำกับโดยตลอด

แสดงธรรม กลุ่มสายธารธรรม เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2561
ผู้ปฏิบัติ : การเจริญสติที่ว่า ก่อนหลับหายใจเข้าหรือหายใจออกก็ต้องรู้ จริงไหมคะ
ท่านทรงกลด : จริง การปฏิบัติต้องเริ่มต้นตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเวลาหลับ จึงจะเรียกว่า เจริญสติเป็นวงกลม อย่างที่หลวงปู่มั่นบอก ต่อเมื่อพบสติอัตโนมัติแล้ว มันจะหลับไปโดย “รู้” ของมันเอง
ผู้ปฏิบัติ : จุดที่จิตตกภวังค์หลับไป รู้สึกว่า จะไม่รู้ตัวสักพักก่อนผลอยหลับค่ะ
ท่านทรงกลด : ถ้าตกภวังค์แบบนั้นแสดงว่า ขาดสติไปหน่อยนึง สมาธิที่ถูกต้องต้องมีตัวรู้หรือสติกำกับโดยตลอด อย่างที่หลวงปู่ดูลย์บอก ยิ่งปฏิบัติ ตัวรู้จะยิ่งเด่น แจ้งชัด แต่พอหลับไปแล้ว ก็เป็นเรื่องของสังขาร อย่าไปกังวลเรื่องความฝัน มันเป็นเรื่องของสังขารมันเล่นตัวมันเอง หลวงตามหาบัวยังฝันเลย ตรงนี้มันชัดว่า สังขารกับจิตมันคนละอันกัน ยกเว้นพระอริยะเจ้าที่เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธ ก็จะไม่มีวันฝัน
ผู้ปฏิบัติ : ก่อนนอนมักเจริญอานาปานสติ แต่สติไม่คมถึงขนาดรู้ว่าตกภวังค์ขณะหายใจเข้าหรือออก บางครั้งเจริญสติมาก จะไม่ง่วง จิตตื่น กายหลับ จะได้ยินเสียงตนเองกรน ข้อนี้ก็ชัดว่าจิตกับกายมันแยกจากกัน
ท่านทรงกลด : หายสงสัยตรงนี้ไปแล้วสินะ เมื่อใดที่สติมีกำลังมาก แม้จะตกภวังค์ ก็จะรู้อยู่ มันจะรู้ตลอด จะไม่เหมือนหลวงปู่ขาว หลวงปู่เปลี่ยน ที่จิตหายไปไหนก็ไม่รู้ จนหลวงปู่เทสก์ กับหลวงปู่มั่นมาแก้ให้ การแก้ก็คือ ตามดูจิตให้อยู่กับรู้หรือสตินั่นแหละ ตอนหลังก็จะเป็นสมาธิแบบมีรู้กำกับ มันจะค่อยๆ วิวัฒนาการไปเอง ขออย่าทิ้งสติก็พอ ยิ่งภูมิธรรมสูง สติก็ยิ่งกล้า ชัด กิเลสนี่ หงอเลย จะรู้เลยว่า กำลังสติกับกำลังกิเลส มันพอกันแล้ว แล้วกิเลสก็จะปราชัยไปในที่สุด เหมือนดังที่พระอริยะเจ้าต่างๆได้รับชัยชนะมา เพราะอำนาจสตินี่เอง หลวงปู่มั่นจึงฟันธงเลยว่า สตินี่แหละที่ฟอกจิตให้บริสุทธิ์ ไม่มีใดอื่น ส่วนการปล่อยวางเป็นเพียงปลายทางเท่านั้นเอง เป็นเพียงผล จำไว้ว่า การปล่อยวางไม่ใช่มรรค แต่เป็นเพียงผล สติต่างหากคือมรรค การเจริญสติจนเห็นรูปนามตามจริงนี้คือมรรค ตอนแรกกิเลสกล้าก็ฆ่ามรรค พอสติกล้ามรรคก็กล้า เมื่อมรรคกล้าก็ฆ่ากิเลส กิเลสอ่อนกำลัง จิตก็ค่อยๆ ปล่อยวาง กิเลสหมดแล้ว ไม่มีอะไรต้องทำ มันก็ปล่อยวางหมดไปเอง กล่าวอีกนัยหนึ่ง ไม่มีอะไรจะต้องปล่อยต้องวางอีกต่อไปนั่นเอง