ถาม-ตอบ

สาธุ

แสดงธรรม กลุ่มต้นบุญ เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2558

 

ท่านทรงกลด : การสาธุเป็นการลดอัตตาอย่างหนึ่ง  เมื่อเห็นคนอื่นทำความดี ส่งข้อธรรมดีๆ แค่คำว่าสาธุ หากยังออกจากใจไม่ได้ ธรรมที่ละเอียดประณีตก็ยากที่จะรู้จะเห็นได้  

บุญคืออะไร  อะไรก็ได้ที่ทำให้ใจสงบระงับจากกิเลสชั่วขณะ  ความสงบเป็นยอดแห่งบุญ  เมื่อเราเปล่งคำว่า สาธุด้วยใจจริง เกิดอะไรขึ้นกับจิตในขณะนั้น  ขณะนั้น จิตจะระงับจากกิเลสชั่วขณะ จะเกิดปิติขึ้น  สังเกตใจตนเองดู เวลาเอ่ยคำว่า สาธุในการทำความดีของคนอื่น จะเกิดปิติน้อยๆ ขึ้นภายใน  นั่นแหละเป็นผลแห่งบุญที่เกิดจากการอนุโมทนาล่ะ  อนุโมทนามัยจึงเป็นบุญกิริยาวัตถุหนึ่งในสิบด้วยเหตุนี้  

ปิติที่มีหลายคนอ่านหนังสือจิตคือพุทธะของหลวงปู่ดูลย์นะครับ  ศาสนาพุทธ มิใช่อื่นไกล คือศาสนาแห่งจิตนั่นเอง เพราะจิตคือพุทธะ ศาสนาอื่นไม่มีเรื่องนี้ เรื่องจิต เรื่องใจ เรื่องการปฏิบัติให้พบจิต พบใจตนเอง  เมื่อพบจิต ก็คือพบพุทธะ คือผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน  ไม่ได้หมายถึงพบภาพนิมิตพระพุทธเจ้าใสเป็นแก้วอะไรเลย  เมื่อพบพุทธะแล้ว ก็ไม่ต้องวิ่งไปหาครูบาอาจารย์ที่ไหนอีก  เพราะพุทธะที่พบนั่นแหละจะสอนตัวมันเองทั้งวันทั้งคืน ไม่หยุดหย่อน  หนทางที่จะพบพุทธะ ก็คือ การอยู่กับรู้ อยู่กับสติ อยู่กับปัจจุบัน ไม่ส่งใจไปในอดีต หรือวาดหวังถึงอนาคต  ปัจจุบันธรรม  ผู้ใดที่วิ่งตามอดีตหรืออนาคตอยู่ ผู้นั้น จะไม่มีวันได้พบพุทธะเลย  เมื่อใดที่ท่านอยู่กับรู้ อยู่กับสติ เมื่อนั้นท่านเข้าใกล้ความเป็นพุทธะแล้ว  พุทธะอยู่ในตัวของพวกเราทุกคนอยู่แล้ว

ส่งจิตออกนอกมากเท่าใด ก็ห่างไกลพุทธะมากเท่านั้น  จิตส่งนอกก็ห่างไกล  จิตส่งในก็ห่างไกล  (จิตส่งในคือการเข้าสมาธิไปสงบแช่อยู่ในฌาน)   จิตที่เป็นกลางๆ ทางสายกลาง นั่นแหละ คือทางที่จะพบพุทธะ  เมื่ออารมณ์ยินดีเกิด ก็ไม่ยินดีด้วย  เมื่ออารมณ์ยินร้ายเกิด ก็ไม่ยินร้ายด้วย  ไม่เออออห่อหมกไปกับมัน  รู้เท่ามัน  ไม่นาน สภาวะ “พุทธะ” ก็จะปรากฏต่อหน้าท่าน โดยไม่ต้องไปถามใครที่ไหนว่า นี่คืออะไร  สิ้นสงสัยตรงนั้น  

ก็ขอให้พยายามอยู่กับลมหายใจ กับสติ กับการรู้เท่าให้มากที่สุดในระหว่างวัน