นิจจังคลอดมาจากอนิจจัง อัตตาคลอดมาจากอนัตตา

แสดงธรรม กลุ่ม Natural Mind เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2559
ท่านทรงกลด : มีญาติธรรมเอาหนังสือธรรมะที่ได้รับไปไว้ตามห้องสมุดที่ต่างจังหวัดเผื่อคนมีบุญคนไหนมาหยิบอ่านอาจจะเปลี่ยนแปลงชีวิตเขาได้ก็จะได้รับผลบุญไปด้วย หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้มีวาสนาบารมีทางธรรมเท่านั้น พวกโลกๆ อ่านไม่สนุกหรอก อ่านไม่กี่หน้าก็วางแล้ว
วันนี้ขอนำบทสนทนาธรรมกับผู้ปฏิบัติที่เก็บไว้มาลงให้อ่านกัน ที่สนทนากันไว้ก็ปีกว่าแล้ว จนถึงวันนี้ ความเห็นที่แสดงไปก็ไม่เปลี่ยนเห็นอย่างไรก็เห็นอยู่อย่างนั้น นี่คือความเห็นธรรม ไม่เหมือนความเห็นทางโลก บางทีไม่ทันข้ามวันก็เปลี่ยนแล้ว
หลวงปู่ชาสอนว่า นิจจังมันคลอดออกมาจากอนิจจัง อัตตาก็คลอดออกมาจากอนัตตา ตอนแรกผมก็งงว่า ทำไมหลวงปู่ชาสอนอัตตา ก็ธรรมมันเป็นอนัตตานี่ หรือนิจจังก็สิ่งทั้งปวงมันไม่เที่ยงเป็นอนิจจังนี่ ทำไมหลวงปู่บอกว่า นิจจังคลอดออกมาจากอนิจจัง อัตตาก็คลอดออกมาจากอนัตตา พอเราปฏิบัติไปถึงตรงนั้น อ้อ ! มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เมื่อเดินมรรคจิตจนจิตก้าวข้ามโคตรปุถุชน เข้าสู่โคตรอริยชน (โคตรภูญาณ) เรียกว่า ถึงโลกุตรมรรคแล้ว ตรงนั้นมันก้าวข้ามอนิจจังไปสู่นิจจังแล้ว ปัญญาหรือความเห็นที่เกิดตรงนั้นที่เรียกว่า โลกุตรปัญญา มันเที่ยงเข้าไปแล้ว ไม่กลับกลอกแล้ว เห็นอย่างไรก็เห็นอย่างนั้นจวบจนนิพพานโน่น และเมื่อออกจากอนัตตา หมายความว่า ออกจากความไม่มีแก่นสารสาระตัวตนของขันธ์ห้าได้ ที่ออกมาก็คือจิตที่บริสุทธิ์นั่นเอง จิตที่บริสุทธิ์นี่แหละมันคลอดออกมาจากความเห็นว่า ขันธ์ห้าเป็นอนัตตา เพราะเมื่อเห็นอย่างนั้นจิตก็ไม่เข้าไปยึดมั่นหมายมั่นเกาะเกี่ยวอีกต่อไป จิตจะวิมุตติออกมาเป็นจิตล้วนๆ ที่หลวงปู่ชาบอกว่า นี่แหละอัตตาล่ะ แต่เป็นอัตตาที่หาตัวตนไม่ได้นะเพราะจิตมันว่าง ตรงนี้หลายท่านอาจไม่เคยได้ยินได้ฟังแบบนี้มาก่อน ยิ่งพวกเจ้าตำรา หากได้อ่านต้องนึกแย้งเถียงในใจอย่างแน่นอน หลวงปู่ชาจะสอนลูกศิษย์เสมอว่า เวลาไปแสดงธรรม ประกาศธรรม ให้เอาความจริงไปแสดง อย่าเอาความจำไปแสดง ความจริงที่ออกมาจากจิตคือความจริงแท้ แต่ถ้าเป็นความจำ ความคิด สำนวนโวหารทั้งหลายแม้จะดูดีแต่มันก็หาใช่ของแท้ไม่ หรือธรรมบางอย่างก็แสดงไปด้วยความเข้าใจว่าถูกต้อง แต่พออ่านดูแล้วจิตมันโต้กลับออกมาทันทีว่า อันนี้ไม่ใช่ ไม่ถูก เพราะมันเห็นของถูก ของใช่มาแล้ว อย่างนี้เป็นต้น